มาทำความรู้จักกับ เหล็กกัลวาไนซ์
กัลวาไนซ์ (Galvanize/Galvanization/Galvanizing) คือ วิธีการเคลือบพื้นผิวเหล็กด้วยสังกะสีเพื่อป้องกันสนิม ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า (Electrogalvanizing), การเคลือบด้วยวิธีทางกล (Mechanical Coatings), การพ่นเคลือบด้วยเปลวความร้อน (Zinc Spraying), การทาด้วยสีฝุ่นสังกะสี (Zinc-Rich Paints), การชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (Hot-dip Galvanizing), การชุบเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนด้วยกระบวนการต่อเนื่อง (Continuous Hot Dip Galvanizing), การเคลือบด้วยเทคนิคเชอร์ราไดซ์ซิ่ง (Sherardizing)) เป็นต้น เหล็กที่ผ่านการเคลือบสังกะสีแล้วมักจะถูกเรียกว่า เหล็กกัลวาไนซ์ (Galvanized Steel)
ทั้งนี้ การกัลวาไนซ์ที่นิยมกันมากในปัจจุบันคือการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน โดยเราจะชุบเหล็กลงไปในบ่อสังกะสีเหลวที่กำลังหลอมละลายในอุณหภูมิประมาณ 435-455 องศาเซลเซียส ซึ่งสังกะสีจะเคลือบติดกับพื้นผิวเหล็กหนามากขึ้นตามระยะเวลาที่แช่ในบ่อ โดยทั่วไปมักจะมีความหนาของชั้นเคลือบประมาณ 65 – 300 ไมครอน เหล็กกัลวาไนซ์ที่ชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนจะเหมาะสำหรับการใช้งานเป็นส่วนประกอบของอาคารที่อยู่ภายนอกบ้าน ส่วนกลางแจ้ง หรือในบริเวณที่ต้องเจอกับความชื้นเป็นประจำ เช่น โครงสร้างหลังคา เสาธง เสาโคมไฟถนน โครงคร่าวผนัง รางน้ำฝน เป็นต้น
ข้อดีและประโยชน์ของการชุบกัลวาไนซ์
ข้อดีในการชุบกัลวาไนซ์ที่สำคัญที่สุด คือ ป้องกันการเกิดสนิมก่อนวัยอันควรและป้องกันการกัดกร่อน นอกจากนี้การชุบกัลวาไนซ์ยังราคาไม่แพง อายุการใช้งานนานกว่าทุกชนิดของการเคลือบผิว และเป็นที่ยอมรับในงานอุตสาหกรรม ทำให้การชุบกัลวาไนซ์ (Hot-Dip Galvanized) นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีวิธีป้องกันการเกิดสนิมอีก 3 วิธีใหญ่ๆ คือ การเคลือบผิว การทำเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel) และการใช้กระแสไฟฟ้า
ทั้งนี้ การชุบกัลวาไนซ์ยังทำให้ทำความสะอาดพื้นผิวได้ง่าย ทนต่อการกัดกร่อนอย่างน้อย 50 ปี และไม่ต้องบำรุงรักษา ทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยรวมต่ำสุดเมื่อเทียบการป้องกันสนิมแบบอื่น ๆ